ภิกษุรับเองก็ดี ใช้ให้ผู้อื่นรับก็ดี ซึ่งทองและเงิน หรือยินดีทองและเงินที่เขาเก็บไว้เพื่อตน ต้องนิสสิคคิยปาจิตตีย์.
นิทานต้นบัญญัติ เจ้าของบ้านที่พระอุปนันทะ ศากยบุตร เข้าไปฉันเป็นนิตย์ เตรียมเนื้อไว้ถวายในเวลาเช้า แต่เด็กร้องไห้ขอกินในเวลากลางคืน จึงให้เด็กกินไป รุ่งเช้าจึงเอากหาปณะ ( เงินตรามีราคา ๔ บาท ) ถวาย พระอุปนันทะก็รับ มีผู้ติเตียน พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงบัญญัติสิกขาบท ห้ามภิกษุ รับเอง ใช้ให้รับทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงินที่เขาเก็บไว้เพื่อตน ทรงปรับอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ละเมิด.
ลักษณะทองและเงิน ทองและเงินนั้น อันเขาทำเป็นรูปพรรณแล้วหรือมิได้ทำก็ตาม ยังเป็นแท่งเป็นลิ่มอยู่ก็ตามเป็นรูปิยคือของสำหรับจ่ายก็ตามโดยที่สุดของไม่ใช่ทองและเงินแต่ใช้เป้นรูปิยได้เช่น ธนบัตร ก็นับว่าทองและเงิน ในที่นี้.
วิธีสละทองและเงิน ทองและเงิน ที่สละแล้วตามสิกขาบทนี้ ท่านสอนว่า พึงบอกแก่อุบาสกผู้บังเอิญมาถึงเข้า ถ้าเขาไม่เอา พึงขอให้เขาช่วยทิ้ง ถ้าเขาไม่รับ พึงสมมติภิกษุเป็นผู้ทิ้ง เลือกผู้ประกอบด้วยคุณสมบัติ ๕ อย่าง คือ ไม่ถึงอคติ ๔ และรู้จักว่าทำอย่างไร เป็นอันทิ้งหรือไม่ ภิกษุนั้นพึงทิ้งอย่าหมายที่ตก ถ้าหมายที่ตก ต้องทุกกฏ
วิธีปฏิบัติในทองและเงินที่เขาเก็บไว้เพื่อตน อย่าถือเอากรรมสิทธิ์ในทองและเงินนั้น แต่ถือเอากรรมสิทธิ์ในเป็นอันจะได้ของเป็นกัปปิยะ ( ของที่ควรบริโภคใช้สอย )
ลักษณะแห่งอาบัติ อาบัติในสิกขาบทนี้ เป็นอจิตตกะ แม้ไม่มีเจตนา แต่ยินดีรับและเข้า คงไม่พ้นอาบัติ
คำเสียสละ ทองและเงินอันเป็นนิสสัคคีย์นั้น ท่านให้สละในสงฆ์ คำเสียสละว่า " อหํ ภนฺเต รูปิยํ ปฏิคฺคเหสึ อิทํ เม นิสฺสคฺคิยํ อิมาหํ สํฆสฺส นิสฺสชฺชามิ" แปลว่า " ข้าพเจ้ารับรูปิยไว้แล้ว ของนี้เป็นนิสสัคคีย์ ข้าพเจ้าขอสละ รูปิยนี้แก้สงฆ์ "
สิกขาบทที่๙ ภิกษุทำการซื้อขายด้วยรูปิยะ คือ ของที่เขา ใช้เป็นทองและเงิน ต้องนิสัคคียปาจิตตีย์.
นิทานต้นบัญญัติ ฉัพพัคคีย์ (พวก ๖ ) ทำการซื้อขายด้วยรูปิยะ ( ทอง เงิน หรือสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนแทนเงินที่กำหนดให้ใช้ได้ทั่งไปในที่นั้น ๆ ) มนุษย์ทั้งหลายพากันติเตียนว่าทำเหมือนเป็นคฤหัสถ์ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงบัญญัติสิกขาบท ห้ามทำการซื้อขายด้วยรูปิยะ ทรงปรับอาบัตินิสสัคคียปาจิตตีย์ แก่ภิกษุผู้ล่วงละเมิด.
อธิบาย รูปิยะ นั้น หมายถึงทองและเงิน หรือของอื่น อันใช้เป็นมาตราสำหรับแลกเปลี่ยน.
ประโยชน์ของสิกขาบท สิกขาบทนี้ มีประโยชน์ที่จะกันไม่ให้เอาทองและเงินที่เป็นนิสสัคคีย์ ในสิกขาบทก่อน มาจ่ายซื่อกัปปิยบริขารและจ้างคนทำการ.
วิธีเสียสละ การสละ ท่านให้สละแก่สงฆ์เหมือนในสิกขาบทก่อนนั้น และพึงเข้าใจว่าสิกขาบทที่ ๘,๙ นี้ ให้สละแก่สงฆ์เท่านั้น.
คำเสียสละว่าอย่างนี้ " อหํ ภนฺเต นานปฺปการกํ รูปิยสํโวหารํ สมาปชฺชิง อิทํ เม อิมาหํ สํฆสฺส นิสสชฺชามิ " แปลว่า " ข้าพเจ้าถึงการแลกเปลี่ยนด้วยรูปิยะมีประการต่าง ๆ ของนี้ของข้าพเจ้า จะต้องสละ ข้าพเจ้าขอสละของสิ่งนี้แก่สงฆ์ "
ที่จ่ายเป็นค่าแรงคนทำการไปแล้ว สละไม่ได้ก็พึงแสดงแต่อาบัติเท่านั้น.
คำจบเงินทำบุญ
ทรัพย์ของข้าพเจ้า ได้มาโดยบริสุทธิ์ ขอบูชาพระพุทธ บูชาพระธรรม บูชาพระสงฆ์ จิตใจจำนง ตรงต่อพระนิพพาน ขอให้ถึงเมืองแก้ว ขอให้แคล้วบ่วงมาร ขอให้พบพระศรีอาริย์ ในอนาคตกาลนั้น เทอญ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น