ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ
ส่วนประกอบ เส้นใหญ่ / ผักบุ้งลวก / ลูกชิ้นปลา / ลูกชิ้นปลาทอด ( แฮ่กึ๊น ) / ปลาหมึกกรอบ / เต้าหู้ทอด / เลือดหมูต้ม / ดห็ดหูหนูขาว / ต้นหอม / ผักชีซอย / น้ำมันกระเทียมเจียว
ซอสเย็นตาโฟปลอดสารพิษ
ส่วนประกอบ เต้าหู้ยี้แดงพร้อมน้ำประมาณ 5-7 ก้อน
ซอสมะเขือเทศ 1/4ถ้วย เนื้อและน้ำกระเทียมดอง 1/2 พริกชี้ฟ้าแดงเอาเมล็ดออก 5 เม็ด น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำซอสเย็นตาโฟ
1. นำเต้าหู้ยี้ ซอสมะเขือเทศ เนื้อกระเทียมดอง พริกชี้ฟ้าแกะเมล็ด น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า และน้ำตาลทราย มาใส่ลงในเครื่องปั่นอาหาร ปั่นจนทุกอย่างละเอียดเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดดีแล้วเทลงในหม้อ ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวจนเดือด ชิมรสให้เค็มนำ เปรี้ยวตาม หวานนิดหน่อย หอมกระเทียม กลมกล่อม ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วตักใส่ขวดโหล สามารถเก็บไว้ใช่ได้นาน
วิธีทำ
1. ลวกลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลาทอด ( แฮกึ๊น ) ปลาหมึกกรอบ เลือดหมูต้ม เห็ดหูหนูขาว และเต้าหู้ทอดเตรียมเอาไว้
2. ลวกเส้นและผักบุงใส่ชาม จากนั้นจึงค่อยใส่เครื่องต่าง ๆ ที่ลวกแล้วลงไป
3. ใส่น้ำมันซอสกระเทียมเจียว โรยด้วยต้นหอม ผักชีซอย และใส่น้ำมันซอสเย็นตาโฟ
4. เติมน้ำซุปแค่พอท่วมเส้น พร้อมเสิร์ฟ
น้ำชาจีน น้ำชาจีน น้ำชาจีน น้ำชาจีน น้ำชาจีน
การเตรียม การเตรียม การเตรียม การเตรียม
1. ใบชาจีน 2 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำสะอาด 1-1 1/2 ลิตร
วิธีทำ วิธีทำ วิธีทำ วิธีทำ วิธีทำ วิธีทำ วิธีทำ วิธีทำ
1. ต้มน้ำให้เดือดสักครู่ ยกลงจากเตา
2. ใส่ใบชาจีนลงไปแช่ทิ้งไว้สักครู่ ใบชาจะทำให้น้ำเป็นสีน้ำตาลออ่น ถ้าชอบแก่ ๆ รสเข้มข้นให้แช่ทิ้งไว้นานสักหน่อย
3. กรองใบชาทิ้ง ใส่ภาชนะไว้ดื่มนาน ๆ
4. ใช่ดื่มในขณะร้อนหรือเย็นก็ได้
5. ถ้าชอบดื่มร้อนและดื่มบ่อย ให้ห่อใบชาด้วยผ้าขาวบาง เย็บปิดด้วยด้าย หรือใส่กรวยกรองใบชา แช่ทิ้งไว้ในกาน้ำเลย รินดื่มครั้งต่อครั้ง ถ้าเย็นอุ่นไฟให้ร้อน หากสีของน้ำอ่อนลง ทิ้งใบชาและเปลี่ยนใบชาใหม่ได้
.--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภิกษุดื่มน้ำเมา ต้องปาจิตตีย์
นิทานต้นบัญญัติ พระสาคตะ ปราบนาค ( งูใหญ่ ) ของพวกชฏิลได้ ชาวบ้านดีใจปรึกษากันว่าจะถวายอะไรดีที่หาได้ยาก ภิกษุฉัพพัคคีย์ แนะให้ถวายเหล้าใส สีแดงดั่งเท้านกพิราบ ชาวบ้านจึงเตรียมเหล้าแดงไว้และถวายให้พระสาคตะดื่ม พระสาคตะเมานอนอยู่ที่ประตูเมือง พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงบัญญัติสิกขาบทห้าภิกษุดื่มสุรา ( น้ำเมาที่กลั่น ) และเมรัย ( น้ำเมาที่หมักหรือดอง ) ทรงปรับอาบัติปาจิตตีย์แก่ภิกษุผู้ล่วงละเมิด.
อธิบาย ลักษณะน้ำเมา
๑. เมรัย ได้แก่น้ำอันมีรสหวานทุกอย่างที่เป็นเอง เช่นน้ำตาลแดง แต่เมื่อล่วงเวลาแล้ว รสหวานนั้นกลายเป้นรสเมา
๒. สุรา ได้แก่เมรัยที่เขากลั่นสกัด เพื่อให้รสเมาแรงขึ้น
ลักษณะแห่งอาบัติ อาบัติในสิกขาบทนี้ เป็นอจิตตกะ ( คือไม่มีเจตนา สำคัญว่ามิใช่น้ำเมาดื่มเข้าไป ก็คงเป็นอาบัติ ) เพราะไม่มีคำบ่งเจตนา ไม่เหมือนสิกขาบทของสามเณรและของคฤหัสถ์.
ข้อยกเว้น
๑. ของที่มิใช่เป็นน้ำเมา แต่มีสี กลิ่น รส ดุจน้ำเมา เช่นยาดอง บางอย่าง ไม่เป็นวัตถุแห่งอาบัติ
๒. น้ำเมาทีเจือในแกงในเนื้อหรือในของอืน เพื่อชูรสหรือกันเสีย ไม่ถึงกับเป็นเหตุเมา ชื่อว่าเป็นอัพโพหาริก ( ไม่ต้องพูดถึงคือ บอกไม่ได้ว่ามี, มีแต่ไม่ปรากก ) ฉันหรือดื่มของเช่นนั้นไม่เป็นอาบัติ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น